ศัลย์ทั่วไปจะอยู่ต่อไปอย่างไร?

เสนอเพื่อประชาพิจารย์ จาก
พลตำรวจตรีนายแพทย์ชุมศักดิ์ พฤกษาพงษ์
อดีตเลขาธิการราชวิทยาลัยศัลยแพทย์แห่งประเทศไทย
ที่ปรึกษาสมาคมศัลยแพทย์ทั่วไปแห่งประเทศไทย 
ในพระบรมราชูปถัมภ์ (ปัจจุบัน)

 

    สมัยที่ผมยังเป็นนิสิตแพทย์ เมื่อ 60 ปีก่อนหน้านี้นั้น พอเอ่ยชื่อนายแพทย์อุดม โปษะกฤษณะ วงการแพทย์จะชื่นชมความรู้ความสามารถของอาจารย์ที่สามารถทำหัตการครอบคลุมพยาธิสภาพตั้งแต่หัวจรดเท้า เป็นศัลยแพทย์ทั่วไปยุคโบราณจริงๆ

    ครั้นเมื่อผมไปรับการฝึกอบรมเป็นศัลยแพทย์ทั่วไปที่เมืองบัลติมอร์ รัฐแมรีแลนด์ ประเทศสหัฐอมริการะหว่างปี ค.ศ. 1970 – 1977 ผมก็ได้เป็นประจักษ์พยานของการแยกสาขาย่อยออกจากศัลยแพทย์ทั่วไปเป็นระยะๆ เช่นถ้ามีคนไข้มาหาด้วยปัญหาทางสมองและ/หรือไขสันหลัง, ปัญหาทางเดินปัสสาวะ, จักษุ, โสต ศอนาสิก เป็นต้น ก็จะมีกลุ่มแพทย์แยกตัวไปฝึกอบรมเฉพาะทางมาให้บริการ ทำให้ศัลยแพทย์ทั่วไปลดภาระลงได้มากพอควร

    นั่นคือจุดเริ่มต้นของการแพทย์เฉพาะทาง (specialization) ซึ่งตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 20 ก็ได้มีศัลยแพทย์สาขาย่อยแยกออกมาต่อเนื่อง แม้แต่การผ่าตัดรักษาไส้เลื่อนก็ได้กลายเป็นอนุสาขาด้านศัลยศาสตร์อย่างเหลือเชื่อว่าปัจจุบันศัลยแพทย์ทั่วไปที่ฝึกอบรมมาตามหลักสูตรปกติอาจไม่สามารถผ่าตัดไส้เลื่อนได้เหมือนเดิมหรือจะเผชิญปัญหาด้าน Competency ที่อนุสาขากำหนดไว้สูง

    ขณะนี้มีอนุสาขาที่ตั้งเป็นสมาคมและ/หรือชมรม จำนวน 13 สาขาได้แก่

  1. สมาคมแผลไหม้และสมานแผลฯ
  2. ชมรมศัลยศาสตร์โรคอ้วนฯ
  3. สมาคมแพทย์โรคหลอดเลือดฯ
  4. ชมรมศัลยแพทย์ลำไส้ใหญ่ฯ
  5. ชมรมศัลยแพทย์โรคตับฯ
  6. ชมรมศัลยแพทย์ต่อมไร้ท่อฯ
  7. สมาคมผู้ให้อาหารทางหลอดเลือดดำฯ
  8. ชมรมศัลยแพทย์ไส้เลื่อนฯ
  9. ชมรมศัลยแพทย์เต้านมแห่งประเทศไทย
  10. ชมรมศัลยแพทย์มะเร็งฯ
  11. ชมรมศัลยศาสตร์โรคติดเชื้อฯ
  12. สมาคมแพทย์อุบัติเหตุฯ
  13. ชมรมศัลยกรรมด้วยกล้องฯ

 

สถานการณ์ของศัลยแพทย์ทั่วไปในประเทศไทย

    เมื่อวิทยาการณ์ก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว ทำให้ศัลยแพทย์ทั่วไปต้องก้าวให้ทัน และเริ่มเลือกอนุสาขาที่ตนสนใจเข้าร่วมฝึกอบรมทำศัลยปฏิบัติสาขานั้นๆเพิ่มขึ้นตามความต้องการของผู้ใช้บริการ แต่วงการศัลยศาสตร์ทั่วไปต้องตระหนักว่าศัลยศาสตร์สาขาทั่วไปนี้ยังเป็นที่ต้องการในระบบสุขภาพ แม้ในสหรัฐอเมริกาก็ยังพบว่าศัลยแพทย์ทั่วไปเป็นที่ต้องการโดยเฉพาะอย่างยิ่งในชนบทที่ห่างไกล ดังนั้นผมมีความเห็นว่าสมาคมศัลยแพทย์ทั่วไปแห่งประเทศไทย จะต้องมีหน้าที่ธำรงสภาพการมีศัลยแพทย์ทั่วไปเพื่อร่วมให้บริการในระบบสุขภาพปัจจุบัน หรือแม้ในอนาคตหลายทศวรรษข้างหน้า สมาคมฯต้องสร้างเส้นทางให้ศัลยแพทย์ทั่วไปแท้ๆ เดินต่อไปอย่างมีศักดิ์ศรีและเป็นที่ยอมรับของวงการสุขภาพ เหมือนอย่างที่โรงพยาบาลเอกชนที่ต้องสรรหาศัลยแพทย์ทั่วไปเป็นแกนสำคัญของทีมบริการสุขภาพ โดยมีการประกันรายได้

ปัญหาสำคัญที่เกิดกับการแยกสาขา (Sub Specialization) คือ

  1. ระบบฝึกอบรมอนุสาขานั้นๆที่มีการรับรองจากองค์กรที่เกี่ยวข้องตามมาตรฐานที่สามารถตรวจสอบได้,คงสภาพความเป็นผู้เชี่ยวชาญไว้ได้ตลอดช่วงที่ทำศัลยปฏิบัตินั้นๆ
  2. แล้วศัลยแพทย์ทั่วไปที่สำเร็จการฝึกอบรมตามหลักสูตรศัลยศาสตร์ทั่วไป จะยังสามารถทำหัตถการที่อนุสาขาใหม่พัฒนาขึ้นมาได้หรือไม่อย่างไร อนุสาขาใหม่จะมีหลักสูตรเสริมพิเศษที่ศัลยแพทย์ทั่วไปสามารถสมัครเข้าเรียนจนได้ประกาศนียบัตรหรือไม่อย่างไร
  3. องค์กรใดจะมีความรู้ความสามารถและอำนาจหน้าที่ในการรับรองคุณภาพศัลยแพทย์อนุสาขาต่างๆและดำเนินการต่ออายุการเป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางเป็นระยะๆ (Recertification)

 

ข้อเสนอเพื่อพิจารณา

    สมาคมศัลยแพทย์ทั่วไปแห่งประเทศไทยฯ จัดประชุมใหญ่ที่มีองค์ประกอบของคณะศัลยแพทย์ทุกอนุสาขา เพื่อให้ได้มติรวมว่าสมาคมในฐานะผู้ให้กำเนิดศัลยแพทย์อนุสาขาต่างๆ จะเป็นผู้ดำเนินการรับรองคุณภาพและความรู้ความสามารถของศัลยแพทย์อนุสาขาต่างๆ (Certification และ/หรือ Recertification) 

    กระบวนการเช่นนี้จะทำให้ศัลยแพทย์ทั่วไปและศัลยแพทย์อนุสาขาในร่มธงมีคุณสมบัติที่ได้มาตรฐาน เป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้บริการ และเป็นภูมิคุ้มกันศัลยแพทย์ทุกอนุสาขาที่จะได้รับการรับรองและใช้สิทธิในการประกอบศัลยปฏิบัติอนุสาขาต่างๆได้อย่างเป็นที่ไว้วางใจของสังคม หากมีข้อร้องเรียนหรือคดีฟ้องร้องเกี่ยวกับการประกอบศัลยปฏิบัติของศัลยแพทย์ทุกอนุสาขาที่ได้รับการรับรองเป็นสมาชิก จะได้รับการคุ้มครองจากสมาคมฯ โดยสมาชิกจะต้องมีหน้าที่ด้านการเงินที่สนับสนุนให้สมาคมทำหน้าที่ดูแลสมาชิกได้ เช่นโดยการชำระค่าต่ออายุวุฒิบัตร/หนังสืออนุมัติในรูปแบบของ Recertification

 

ข้อเสนอเรื่องขอความอนุเคราะห์จากศัลยแพทย์ทุกสาขา

    สมาคมหรือชมรมที่ได้กำเนิดอนุสาขาต่างๆควรตระหนักว่าสมาคมศัลยแพทย์ทั่วไปแห่งประเทศไทยฯ เป็นแม่ผู้ให้กำเนิดอนุสาขาต่างๆ และแสดงความกตัญญูกตเวทิตาแก่แม่ด้วยการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการจัดสถานที่ทำการให้แก่อนุสาขาต่างๆเป็นรายปี ตามที่ที่ประชุมใหญ่สามัญของสมาคมฯ จะได้กำหนดเป็นนโยบายและข้อบังคับ

 

ข้อสรุป

    ในฐานะศัลยแพทย์ทั่วไปที่มีส่วนก่อตั้งสมาคมศัลยแพทย์ทั่วไปแห่งประเทศไทยฯ และมีโอกาสติดตามวิวัฒนาการของสมาคมแล้วเกิดความเป็นห่วง จึงใคร่ขอเสนอเพื่อให้สมาชิกร่วมประชาพิจารณ์และร่วมมีฉันทามติในการธำรงไว้ซึ่งศัลยแพทย์ทั่วไป/ศัลยแพทย์อนุสาขาที่ร่วมทำประโยชน์และเป็นที่ไว้วางใจของสังคมไทยตลอดไป